เรียนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไหน? กับใครดี?
VIP ทุกท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ น่าจะเคยมีประสบการณ์ขับรถยนต์ไม่เป็นและอยากเรียนขับรถยนต์เพื่อใช้ในการสอบทำใบขับขี่ โดยทั่วไปก็คงคิดถึงทางเลือกเพื่อหาที่เรียน เริ่มจากคนรู้จักหรือจากสถาบันเอกชนสอนขับรถยนต์ที่ต่างๆ หรือใครทุ่มเท่หน่อยก็สามารถไปเรียนที่กรมขนส่งทางบกได้ใช่ไหมครับ แล้วถ้าสำหรับ VIP ท่านที่อยากจะขี่มอเตอร์ไซค์ให้เป็นหล่ะ นี่คือคำถามที่ผมเองก็เคยสงสัยว่า อยากขี่มอเตอร์ไซค์ออกถนนแบบมั่นใจ ไม่งูๆ ปลาๆ จะมีใครเก่งๆ ที่ไหนมาสอนให้ไหม? ผมเชื่อว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะให้คนที่บ้านหรือเพื่อนที่ขับขี่เป็นแล้วมาสอนเราให้ขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งวิธีที่กล่าวมาก็เป็นความคิดที่เข้าท่าทีเดียว เพราะผู้มีประสบการณ์มาสอนให้เราโดยตรงและไม่เสียค่าเรียนแบบจริงจัง อาจมีสินน้ำใจให้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นความลับที่ผมจะมาเปิดเผยก็คือ จะดีไหมถ้าผมและ VIP ทุกท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ได้เรียนขี่มอเตอร์ไซค์กับครูฝึกสอนมืออาชีพไปเลย เรียนรู้กฎกติกาการใช้รถบนท้องถนน เทคนิคการขับขี่ให้ปลอดภัยทั้งภาคทฎษฎีและภาคปฏิบัติในราคาสมเหตุสมผล เพราะการออกถนนโดยมอเตอร์ไซค์แต่ละครั้งสำหรับมือใหม่ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อย่างแน่นอน
สำหรับผมแล้วนั้นด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องความปลอดภัยเวลาอยู่บนท้องถนน สถานที่และตัวมอเตอร์ไซค์สำหรับฝึกซ้อม ทำให้ผมได้มาพบกันสถาบันสอนขับขี่ของยามาฮ่าหรือ YRA Thailand (Yamaha Ridning Academy Thailand) ซึ่งมีหลายหลักสูตรให้เลือกเรียนได้ตามความต้องการและเท่าที่ผมเช็คราคาคอร์สเรียนในปัจจุบัน ถือว่าเป็นสถาบันสอนขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ราคาถูกที่สุดแล้ว (เขียนบทความเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560)
โดยผมไม่มีทักษะการขับขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนเลย เพราะฉะนั้นผมต้องลงเรียนคอร์สพื้นฐานที่สุด นั่นคือ การขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่(ออโตเมติก) ราคา 400 บาท ซึ่งเป็นคอร์ส 1 วันเต็ม เรียน 9.00-16.00 น. โดยสามารถสอบถามคอร์สที่เหมาะสมกับเราและลงทะเบียนผ่านทางแชทของ Fanpage YRA Thailand ได้โดยตรงครับ ทางเจ้าหน้าที่จะบอกวันที่มีการเปิดคอร์สสอน และมีข้อกำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นเล็กน้อย ได้แก่
- สามารถขี่และทรงตัวบนจักรยานได้
- ในวันอบรมต้องแต่งกายให้ถูกระเบียบ คือ กางเกงขายาวและสวมรองเท้าผ้าใบ เพื่อความปลอดภัยของผู้เรียนเอง
- ก่อนฝึกสอนภาคปฏิบัติ จะมีการตรวจสอบสภาพร่างกาย ได้แก่ การตรวจตาบอดสี ความสามารถในการกะระยะ และความเร็วในการตอบสนอง ซึ่ง 3 ชุดทดสอบนี้ จะเหมือนกับตอนสอบทำใบขับขี่รถยนต์ทุกประการ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ง่ายมากครับ
โดยเมื่อมาถึงที่สถาบันสอนขับขี่ ทางเจ้าหน้าที่จะแจกเสื้อยืดแขนยาวเพื่อใช้สวมใส่ในการฝึกตลอดทั้งวัน จากนั้นจะมีการถ่ายรูปเพื่อใช้ในการออกใบประเมินการเรียนเมื่อจบคอร์สในช่วงเย็น การเรียนในช่วงแรกจะเป็นการเรียนภาคทฤษฎีครับ มีแจกหมวกแก๊ปเท่ห์ๆ ของ YRA Thailand ให้ 1 ใบและเอกสารคู่มือให้กลับมาอ่านทบทวนที่บ้านอีก 1 ชุดครับ สำหรับมือใหม่อย่างผมก็ถือว่าเป็นประโยชน์มากทีเดียว
ภาคปฏิบัติ เวลาที่รอคอยมานาน บิดคันเร่งครั้งแรกในชีวิต
ส่วนของภาคปฏิบัตินั้น ก็จะมีมอเตอร์ไซค์ให้ผู้เรียนขี่กันแบบ 1 ต่อ 1 เลยครับ และมีอุปกรณ์ป้องกันการล้มแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย ทั้งหมวกผ้าคลุมผม หมวกกันน็อค ถุงมือ รวมถึงสนับแขนและสนับเข่า ถือว่าเซฟตี้และปลอดภัยมากๆสำหรับการฝึกในสนามฝึกของ YRA Thailand โดยครูฝึกก็จะคอยประกบและกระจายกันดูแลอย่างทั่วถึงครับ สำหรับคอร์สนี้ก็จะมีการสอน
- การเคลื่อนย้ายมอเตอร์ไซค์โดยไม่ติดเครื่องยนต์
- การจอดมอเตอร์ไซค์ด้วยขาตั้งทั้ง 2 แบบ
- การขึ้นนั่งให้ถูกวิธี
- การสตาร์ทรถ
- การเบรคและบิดคันเร่งควบคุมความเร็ว
- การขับขี่ในเส้นทางตรง
- การเข้าโค้งเลี้ยวซ้ายและขวา
โดยระหว่างที่เราขี่จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดที่กำหนด ทางครูฝึกก็จะคอยให้คำแนะนำกับเราเรื่อยๆ ครับ ให้เราสามารถทราบจุดด้อยและปรับปรุงการขี่ครั้งต่อไปให้ดีขึ้น คำแนะนำทำให้รู้สึกได้ว่า ดีแล้วหล่ะที่มาเรียน ถ้าไม่มาเรียนเราจะไม่รู้ว่าการขี่ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร เพราะบางคนเรียกว่าขี่ได้แต่ยังถือว่าขี่ไม่เป็นครับ การเรียนเป็นการสร้างความมั่นใจให้เราเมื่อออกไปใช้ถนนจริงด้วย ซึ่งการเรียนในภาคปฏิบัติก็จะเป็นแบบนี้ไปจนจบคอร์สถึงช่วงเย็นครับ จากนั้นจะมีการประเมินรายบุคคลครับ ว่าใครมีสิ่งใดต้องพัฒนาแก้ไขเพิ่มเติมบ้างและมีการแจกประกาศนียบัตรสำหรับผู้เข้ารับการอบรมครับ
เพิ่มเติมสำหรับสนามฝึกซ้อมครับ เนื่องจากเป็นสนามกลางแจ้งที่แดดมันจ้าซะเหลือเกิน ทางครูผู้ฝึกสอนแนะนำให้ผู้เรียนสามารถนำหน้ากากผ้าหรือแว่นตากันแดดมาใส่ได้ในขณะฝึกขับขี่นะครับ ซึ่งผมแนะนำว่าควรหาใส่ไปครับ และสำหรับผู้เป็นกังวลกับสุขภาพผิวก็ควรทาครีมกันแดดด้วยครับ เพราะแดดแรงและอากาศในช่วงกลางวันของสนามจะร้อนมาก แต่ทางครูฝึกก็พยายามจะพักเบรคให้ผู้เรียนได้มีเวลาพักและดื่มน้ำครับ ไม่ให้เราเหนื่อยกันเกินไป เพราะจะมีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพในการขับขี่ครับ
นี่ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆที่ผมได้ไปประสบมาครับ โดยหลังจากที่ผมได้เรียนคอร์สพื้นฐานนี้จบ ทางครูฝึกก็จะมีการนำเสนอคอร์สในระดับที่สูงขึ้นต่อไปครับ เพราะการมาเรียนเพียงวันเดียวยังไม่เพียงพอที่จะสามารถไปสอบทำใบขับขี่ได้ครับ แต่การตัดสินใจจะเรียนคอร์สต่อไปไหมก็แล้วแต่ความสมัครใจของผู้เข้าเรียนครับ โดยรวมแล้วสำหรับผมถือว่าประทับใจครับ ทั้งครูฝึกและเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกท่าน ขี่มอเตอร์ไซค์สนุกกว่าที่คิดเยอะเลยครับ แต่ต้องขับขี่อย่างปลอดภัยนะครับ 🙂